เพิกถอนวีซ่าท่องเที่ยวนักข่าวซีเอ็นเอ็น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อและได้มีการเข้าพูดคุยกับ แอนนา โคเรน เป็นพนักงานทำหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวหญิงของทางสำนักงานข่างซีเอ็นเอ็นโดยจากการพูดคุยได้มีการระบุข้อมูลเบื้องต้นว่าได้มีการสั่งเพิกถอนวีซ่านักข่าวและช่างภาพของบุคคลดังกล้าวแล้วหลังจากที่ได้มีการนำตัวทั้งคู่มาสอบปากคำและภายหลังได้มีการสืบพบว่ามีความผิดฐานปฏิบัติงานในประเทศ เพราะเข้าไทยมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวโดยได้มีคำพูดให้สัมภาษณ์ว่าหลักการวีซ่าท่องเที่ยวก็ต้องท่องเที่ยวไม่ใช่ทำงานแล้วทำข่าวแบบเผยแพร่ข่าวไปทั่วโลกอันนี้เป็นความผิดเรื่อง พ.ร.บ. การจัดการทำงานของคนต่างด้าว
BBC ออกแถลงการณ์
สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย FCCT ออกแถลงการณ์เมื่อ 9 ต.ค. ได้มีการตำหนิการกระทำของทีมข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นในสหรัฐฯ กรณีเข้าไปในที่เกิดเหตุศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหนองบัวลำภู เพื่อรายงานเหตุกราดยิง โดยชี้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่มืออาชีพและละเมิดจริยธรรมสื่อมวลชนอย่างร้ายแรง ซึ่งทางด้านสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย ระบุว่าทางสมาคมรู้สึกผิดหวังกับรายงานข่าวของซีเอ็นเอ็น เนื่องจากมีการเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุที่มีการกั้นที่เกิดเหตุไว้อย่างชัดเจนโดยไม่ได้รับอนุญาต
รายงานข่าวของซีเอ็นเอ็น ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตำบลอุทัยสวรรค์
จากข้อมูลภาพที่เป็นข่างอยู่นั้น นักข่าวต่างประเทศได้รายงานข่าวของซีเอ็นเอ็นชิ้นหนึ่งที่มีความยาวกว่า 3 นาที ที่ออกอากาศไปแล้ว ปรากฏภาพของผู้สื่อข่าวหญิงเข้าไปรายงานภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู พร้อมทั้งมีภาพที่เผยรายละเอียดของจุดเกิดเหตุ โดยที่หน้าเว็บไซต์ของรายงานข่าวชิ้นนี้ระบุว่าซีเอ็นเอ็นได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังภายในสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งทางสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทยก็ได้มีการระบุว่านี่ไม่ใช่สกู๊ปหรือตัวอย่างของการรายงานที่เจาะลึกเพราะไม่มีองค์กรข่าวอื่นทั้งต่างประเทศหรือท้องถิ่นเตรียมที่จะประพฤติผิดจรรยาบรรณแบบนี้และหนึ่งในนั้นสามารถทำได้เช่นนั้นไม่ว่าจะสำนักข่างไหนก็ตามรวมไปถึงการแทงบอลออนไลน์
ซีเอ็นเอ็น รายงานข่าวของประเทศไทยได้บอบช้ำจากเหตุโศกนาฏกรรม
ซีเอ็นเอ็น แถลงว่าประเทศไทยได้บอบช้ำจากเหตุโศกนาฏกรรมและมีความกังวลอย่างยิ่งถึงเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสมที่จะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะไม่ว่าทั้งในสื่อมวลชนหรือโซเชียลมีเดียโดยหนึ่งในเหตุผลเรื่องนี้คือการเคารพต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัวของพวกเขาทั้งนี้ประเทศไทย มีประวัติศาสตร์ที่ย่ำแย่เกี่ยวกับเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสมที่มีความรุนแรงในสื่อแต่ในหลายปีมานี้ก็มีความก้าวหน้าขึ้นมากเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยทางด้านสื่อต่างประเทศและสื่อท้องถิ่นที่ไม่ยอมลดมาตรฐานในการทำผิดจริยธรรมดังกล่าวภายใต้น้ำหนักของผลประโยชน์ระหว่างประเทศและแรงกดดันในการรายงานข่าวควรได้รับการยกย่อง และในขณะเดียวกันซีเอ็นเอ็นควรตอบคำถามพื้นฐานง่ายๆว่าทีมข่าวซีเอ็นเอ็นจะทำพฤติกรรมแบบเดียวกันนี้หรือไม่กับสถานที่เกิดเหตุอาชญากรรมร้ายแรงในสหรัฐฯ เพราะว่ามันไม่ใช่ที่แทงบอล ที่ใครก็เข้าไปได้ตามที่ต้องการ
สถานีข่าวซีเอ็นเอ็นออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจ กัยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สถานีข่าวซีเอ็นเอ็นออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจกรณีทีมข่าวเข้าไปทำข่าวภายในจุดเกิดเหตุฆาตกรรมหมู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งทางาสถานีก็ได้มีการย้ำกระทำไปด้วยเจตนาดีจากกรณีนักข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเข้าไปรายงานภายในสถานที่เกิดเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ ทำให้สังคมเกิดความไม่พอใจและมีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจให้ดำเนินการตามกฎหมายในข้อหาบุกรุก ในวันที่ 9 ต.คสถานีข่าวซีเอ็นเอ็น ออกแถลงการณ์ถึงการรายงานจากภายในจุดเกิดโศกนาฏกรรมในจังหวัดหนองบัวลำพูของทีมข่าวซีเอ็นเอ็น ลงนามโดย ไมค์ แมคคาร์ธี รองประธานผู้บริหาร และผู้จัดการทั่วไป ซีเอ็นเอ็น อินเทอร์เนชันแนล โดยอธิบาย ดังนี้
“ทีมข่าวได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขที่อยู่ตรงจุดนั้นแล้ว เพื่อเข้าไปในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ทีมข่าวเข้าใจแล้วในเวลานี้ว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่สามารถให้อนุญาตเข้าพื้นที่ก่ออาชญากรรมได้ หากทีมข่าวตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้ว่าอาคารและห้องเรียนเหล่านี้เป็นพื้นที่หวงห้ามทีมข่าวจะไม่เข้าไปทีมข่าวไม่มีเจตนาใดๆ”
“ทีมข่าวเข้าไปในพื้นที่ผ่านประตูหน้าที่เปิดอยู่ซึ่งมีนักข่าวอีกหลายคนอยู่ด้วย เวลานั้นไม่มีเทปของตำรวจปิดกั้นอยู่ โดยหลังทำข่าวด้วยความเคารพต่อสถานที่ภายในอาคารราว 15 นาที และทางทีมข่าวจึงออกมาแต่ประตูทางเข้าได้ถูกปิดและมีการใช้เทปตำรวจปิดล้อมแล้วทำให้ทีมข่าวต้องปีนออกมานั่นเอง อาจจะทำให้เหมือนว่าปีนเข้าไปตามที่เป็นข่าว”
ตอนนี้ซีเอ็นเอ็นได้ระงับการเผยแพร่รายงานและได้มีคำสั่งถอดวิดีโอออกจากเว็บไซต์แล้วและได้มีคำพูดกล่าวเป็นการขอโทษว่า “เราเสียใจและไม่ได้มีเจตนาที่จะล่วงเกินหรือไม่เคารพสถานที่แต่อย่างใด” และภายหลังสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศได้มีการใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า CNN International PR อแกมาชี้แจงว่า ทีมข่าวซีเอ็นเอ็นได้เข้าไปถ่ายทำในศูนย์เด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู โดยได้มีการช่วงเวลาที่เส้นแนวกั้นของตำรวจถูกเอาออกไปแล้วขณะกำลังเก็บภาพเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข 3 คน ได้เข้ามาบอกทีมข่าวว่าให้เข้าไปถ่ายทำด้านในได้ทีมข่าวได้โดยสามารถที่จะใช้เวลาในการเห็บภาพฟุตเทจราว 15 นาที และระหว่างที่ออกมาจากสถานที่ในขณะนั้นพบกับเส้นแนวกันของตำรวจกลับถูกติดตั้งให้เหมือนเดิมทีมข่าวจึงต้องปีนข้ามรั้วออกจากจุดดังกล่าว และนี้ก็คือเรื่องราวทั้งหมดที่ทางสถานีแจงกลับมา