รอกตกปลานับเป็น อุปกรณ์ตกปลาที่มีความสำคัญในการตกปลาเนื่องจากการตกปลาแต่ละประเภทแต่ละชนิดจะ ใช้รอกที่มีความแตกต่างกันออกไปครับ โดยรอกตกปลาที่ใช้กันโดยทั่วไปในปัจจุบันนั้นแบ่งออกได้ดังนี้
ประเภทของรอกตกปลา
รอกตกปลาแบบสปินนิ่ง (Spinning Reel)
เป็นรอกตกปลาพื้นฐาน เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะว่ามันใช้งานได้ง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน
- ข้อดีของรอกสปินนิ่ง ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มือหมุนสามารถปรับได้ทั้งซ้ายและขวา
- ข้อเสียของรอกสปินนิ่ง สายตีเกลียว หรือสายบิดกันหรือว่าสายพันกันก็ได้ แบบนี้จะพันกันมากกว่า สายแบบตีเกลียว เพราะว่าขณะตีสาย สายจะคลายตัวออกจากสปูนในขณะที่สปูนไม่หมุนตาม
รอกตกปลาแบบเบทคาสติ้ง (Bait casting Reel)
เป็นรอกที่มีความสวยงามเพราะว่ามีทั้งสองแบบ คือแบบธรรมดาและแบบหยดน้ำ มีความคงทน และใช้งานได้มากกว่าแบบข้างบน รอกตกปลาแบบนี้ใช้กับปลาที่ชอบจับเหยื่อ เช่นปลาชะโด
- ข้อดีของรอกเบทคาสติ้ง สามารถเหวี่ยงเหยื่อได้ไกล มีระบบตั้งเบรกล่วงหน้าทำให้ไม่พะวงเรื่องการตั้งเบรก เมื่อปลาฉวยเหยื่อ
- ข้อเสียของรอกเบทคาสติ้ง ใช้งานค่อนข้างยากต้องอาศัยการฝึกฝน สายฟู่ และมือหมุนไม่สามารถเปลี่ยนสลับข้างได้
รอกแบบทรอลลิ่ง (Trolling Reel)
เป็นรอกตกปลาที่ลักษณะเดียวกันกับรอกเบทแต่มีขนาดใหญ่กว่า ทนทานกว่า เหมาะสำหรับตกปลาทะเลที่มีขนาดและน้ำหนักมาก โดยใช้การลากเหยื่อด้วยเรือ หรือการทรอลลิ่งนั่นเอง
รอกตกปลาแบบฟราย (Fly casting Reel)
ใช้สำหรับตกปลาโดยการใช้เหยื่อเฉพาะของรอกฟรายซึ่งจะเลียนแบบลักษณะของแมลง โดยการเหวี่ยงสายออกไปแล้วทำการสบัดสายให้เหยื่อเคลื่อนไหวเลียนแบบแมลงที่ ตกลงไปบนผิวน้ำอย่างไรก็ตามรอกชนิดนี้ไม่นิยมในบ้านเรา นอกจากรอกตกปลาดังที่กล่าว มาข้างต้นแล้วยังมีรอกชนิดพิเศษที่ทำขึ้นสำหรับงานพิเศษ เช่นรอกขนาดใหญ่ที่ ใช้ตกปลา ในทะเล หรือรอกกระปุก
- ข้อดีของรอกฟราย สามารถเลียนแบบลักษณะของแมลงที่ตกลงบนผิวน้ำได้
- ข้อเสียของรอกฟราย ใช้งานค่อนข้างยากต้อง อาศัยการฝึกฝน เนื่องจากรอกฟรายต้องใช้กับคันฟรายให้เข้าชุดเท่านั้นและรอกฟรายไม่สามารตี เหยื่อแล้วให้สายไหลออกไปได้เอง
การเลือกรอกตกปลาที่ดีอาจช่วยให้ท่านเกิดจับปลาได้เพียงคนเดียวก็ได้ รอกตกปลามีหลายแบบขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่า จะใช้ทำอะไร และตกปลาขนาดไหน
credit: https://www.youlovefishing.com