“ชาเขียว” ใครจะไปคิดว่าเจ้าน้ำสีเขียวๆนี้จะมีรสชาติดีและเป็นที่นิยมกันมาอย่างยาวนาน หลายยุคหลายสมัย การดื่นชาเขียวถือได้ว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกใบชา ชนิดของใบชา ไปจนถึงวิธีการชงชาก็ตาม สำหรับใครที่ชื่นชอบชาเขียว วันนี้เรามีวิธีการชงชาและเทคนิคว่าดื่มชายังไงให้มีประโยชน์ แต่ก่อนอื่นเรามารู้จักประเภทของชาเขียวกันก่อนเลย
ชาเขียว แต่ละประเภทแตกต่างกันยังไง ?
ชาเขียว เรียกได้ว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะกรรมวิธีการเก็บและอบที่แตกต่างกัน ก็ทำให้รสชาติต่างออกไปด้วย ปัจจุบันจึงได้เห็นชาเขียวรูปแบบต่างๆเกิดขึ้น อาทิ มัทฉะ หรือ โฮจิฉะ แต่มาดูกันดีกว่าว่าจริงๆแล้วชาเขียวนั้นมีกี่ประเภทกันแน่
Credit : Randy Fath / Unsplash
มาทำความรุ้จักตต้นตำหรับจากญี่ปุ่นกับชาเขียว 5 ประเภทหลัก
1.มัทฉะ ชื่อนี้ใครๆก็รู้จัก
มัทฉะ น่าจะเป็นชื่อเรียกที่หลายๆคนคุ้นชินมากที่สุด เนื่องจากเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ชาเขียวมัทฉะนั้นได้มาจากการสกัดใบชาออกมาในรูปแบบผง เพื่อให้ได้ผงชาเขียวที่เข้มข้นสำหรับการชงดื่ม ชาเขียวมัทฉะนั้นจึงมีรสชาติที่เข้มข้นและมีกลิ่นหอมในแบบฉบับชาต้นตำหรับ โดยปกติแล้วเราจะใช้กาชงชาในการชงชาเขียวมัทฉะ หรือไม่ก็ใช้ตัวกรองใบชาเข้ามาช่วย ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และลักษณะที่เป็นผงซึ่งง่ายต่อการใช้งาน คนจึงมักนิยมนำไปประกอบอาหารในรูปแบบอื่นๆ อาทิ เบเกอร์รี่และขนมเค้ก ซึ่งให้รสชาติที่ลงตัวและสีเขียวสดน่ารับประทาน และที่สำคัญคือชาเขียวมัทฉะยังให้ประโยชน์มากกว่าชาเขียวธรรมดาอีกด้วย
2.คุณภาพพรีเมี่ยมกับชาเขียว เกียวกุโระ
การจะได้ชาเกียวกุโระมานั้นต้องใช้ใบชาจากต้นชาที่ต้องปลูกในที่ร่มเท่านั้น เพราะการปลูกต้นชาในที่ร่มจะทำให้สารอาหารและคุณประโยชน์ในใบชาไม่โดนทำลายเพราะแสงแดด ก่อนที่จะนำใบชาไปผ่านกระบวนการผลิตชา ซึ่งทำให้เกียวกุโระเป็นใบชาที่เรียกได้ว่ามีคุณภาพดีที่สุดในบรรดาชาเขียวทุกชนิด เกียวกุโระเป็นชาที่มีรสชาติหวานและฝาดเล็กน้อย แต่เมื่อชงแล้วจะมีกลิ่นที่หอมและมีรสชาติกลมกล่อม ซึ่งกระบวนการปลูกที่ยากนี้ทำให้ชาเกียวกุโระเป็นชาที่มีราคาสูงและมีความพรีเมี่ยมนั่นเอง
Credit : Agathe Marty / Unsplash
3.เซ็นชะ ต้นตำหรับความเป็นญี่ปุ่น
ด้วยรสชาติฝาดและความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ชาเซ็นชะเป็นชาที่เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นมากที่สุด ซึ่งรสชาติที่แตกต่างกันไปของชาเซ็นชะนั้น ฏ็ขึ้นอยู่กับความแตกต่างในการอบใบชา ทำให้ชาเซ็นชะเป็นชาที่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง ที่ทำให้หลายๆคนหลงใหลในรสสัมผัส
4.โฮจิชะ ชาเขียวสุดอินเทรนที่ใครๆก็หลงรัก
ชาโฮจิฉะ เจ้าชาสีเข้มๆนี้ เป็นอีกหนึ่งชื่อที่กำลังได้รับความนิยมในไทยไม่น้อย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เนื่องจากมีความโดดเด่นเป็นกลิ่นที่หอมละมุน ดื่มง่าย ไม่ฝาด และมีคาเฟอีนน้อย ทำให้เด็กๆก็สามารถดื่มได้เช่นกัน
5.เสน่ห์ความหอมที่ไม่เหมือนใครกับ เก็นไมฉะ
หลายๆคนอาจไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้เท่าไหร่ ต่อให้จะเป็นสาวกชาเขียวก็ตาม แต่ถ้าหากเรียกว่า ชาเขียวข้าวคั่ว แล้ว ก็อาจทำให้คุณร้องอ๋อ เก็นไมฉะก็คือชาเขียวที่นำมาคั่วกับข้าวกล้อง ซึ่งนิยมนำมาเสริฟตามร้านอาหารญี่ปุ่น เพราะมีรสชาติลื่นคอ หอม และกินง่าย ช่วยตัดเลี่ยนเวลากินอาหารญี่ปุ่นนั่นเอง
ดื่มชาเขียว ใครว่าไม่มีประโยชน์
Credit : Jason Leung /Unsplash
หลายๆคนอาจจัดให้ชาเขียวอยู่ในเครื่องดื่มประเภทเดียวกับกาแฟ เนื่องจากชาเขียวมีส่วนผสมของคาเฟอีน แต่รู้ไหมว่าชาเขียวนั้นเป็นสุดยอดเครื่องดื่นที่มีประโยชน์ในด้านความสวยความงาม เนื่องจากในใบชานั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ รมไปถึงวิตามินต่างๆไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินบี หรือวิตามินอี ซึ่งมีประโยชน์กับผิวพรรณ ใครที่ต้องการลดน้ำหนักก็ยังเลือกกินชาเขียวได้ เพราะมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน หลายการแพทย์แผนโบราณยังใช้ชาเขียวเนื่องจากมีสรรพคุณทางยามากมาย ไม่ว่าจะเป็นล้างสารพิษในลำไส้ แก้อาการร้อนใน ลดอาการท้องเสีย ลดคอเลสตอรอลแนะน้ำตาลในเลือด รวมไปถึงแก้อาการแฮงค์จาการเมาค้าง เรียกได้ว่าเจ้าชาเขียวนั้นมีประโยชน์รอบด้านเลยก็ว่าได้
ชาเขียว ชงและดื่มยังไงให้ได้ประโยชน์
1.ไม่ควรดื่มชาเขียวกับนม
คอมัทฉะลาเต้เป็นต้องคอตก เพราะการน้ำชาเขียวไปผสมนม ไม่ว่าจะเป็นนมสดหรือนมผง จะทำให้คุณประโยชน์ของชาเขียวนั้นไม่สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากโปรตีนในน้ำนมไปจับกับสารที่เป็นประโยชน์ในชาเขียวนั่นเอง
Credit : Jose Soriano / Unsplash
2. ความเข้มข้นคือสิ่งสำคัญ
นอกจากจะต้องมีวิธีการชงที่ถูกต้องแล้วนั้น การจะดื่นชาเขียวให้ได้ประโยชน์สูงสุดยังต้องคำนึงถึงความเข้มข้นอีกด้วย เนื่องจากร่างกายต้องการสารต้านอนุมูลอิสระที่เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อให้เห็นผล จึงต้องชงชาเขียวที่เข้มข้นตามแบบฉบับต้นตำหรับญี่ปุ่น
3. ดื่มตอนชงเสร็จใหม่ ดีที่สุด
ในชาเขียวนั้นจะมีสารที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะสารที่เรียกว่า อีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (EGCG) ซึ่งหากโดยความร้อนเป็นเวลานาน เจ้าสารตัวนี้จะสลายไปกว่า 20% ทำให้น้ำชาเขียวที่คุณดื่มเข้าไปนั้นมีคุณประโยชน์ที่ลดลงกว่าการที่ดื่มตอนชงเสร็จใหม่ๆ
Credit : Virginie Laune / unsplash
4. ดื่มกับมะนาว ประโยชน์ที่คุณอาจไม่รู้
ไม่ว่าจะเป็นความร้อนที่มากเกินไป ทิ้งไว้นานเกินไป หรือระยะเวลาที่ไม่เหมาะสม ปัจจัยเหล่านี้อาจเป็นตัวทำลายประโยชน์ของชาเขียวอยู่โยที่คุณไม่รู้ตัว แต่การแก้ปัญหาง่ายๆคือ การบีบน้ำมะนาวลงไปในระหว่างหรือหลังชงชาเขียว วิธีนี้จะช่วยรักษาคุณประโยชน์ของชาเขียวของคุณให้เหมือนชาที่พึ่งชงเสร็จใหม่ๆ
เป็นไงกันบ้างคะ หลังจากได้รู้จักประเภทต่างๆของชาเขียว รวมไปถึงได้รู้ว่าชาเขียวมีประโยชน์มากขนาดไหนแล้ว ทั้งคนที่เป็นสาวกชาเขียวหรือคนที่ไม่ใช่คอชาเขียวคงอยากลองชาเขียวประเภทต่างๆกันอย่างแน่เลย ที่ช้อปปี้เรามีชาเขียวประเภทต่างๆมากมายให้เลือกซื้อง่ายๆ ไม่ต้องไปไกล รวมถึงแคมเปญ Shopee4.4 ที่มีโปรโมชั่นและส่วนลดมากมายสำหรับคุณ